ทำไมเราจึงป่วย ? เป็นคำถามที่ตอบได้ยาก เพราะมีมาจากหลายๆ สาเหตุด้วยกัน แต่หลักใหญ่ๆ สรุปสาเหตุของการป่วยได้ 2 ประเด็นใหญ่ๆ คือ
1. โรคที่เกิดจากเชื้อโรค
2. โรคที่เกิดจากความบกพร่อง หรือความเสื่อมของการทำงานของอวัยวะใด อวัยวะหนึ่ง หรือหลายๆ อวัยวะรวมกัน ที่เกิดมาจากการบริโภคอาหารที่ผิดๆ การดำเนินชีวิตที่ผิดๆ คุณทราบหรือไม่ว่าอาหารทุกคำที่เรารับประทานเข้าไปมีสารพิษที่ปนเปื้อนมากับพืช ผักที่นำมาปรุงอาหาร ...อีกทั้งผงชูรส...สารพิษที่ล่องลอยอยู่ในอากาศ...เป็นสาเหตุที่ทำให้เราป่วยสารพัดโรค ผักและผลไม้ที่เรารับประทานทุกวันนี้ มีสารเคมีปนเปื้อน มามากบ้างน้อยบ้างตามประเภทของอาหารเหล่านั้น...สารพิษและการดำรงชีวิตอยู่แบบผิดธรรมชาติทำให้เราเจ็บป่วย...และเป็นโรคซึ่งเรียกว่า โรคเสื่อม
การดำเนินชีวิตที่ผิดๆ ส่งผลต่อร่างกายคือ ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอที่จะซ่อมแซมร่างกายตัวเอง
การที่ร่างกายได้รับสารพิษต่างๆ เข้าสู่ร่างกายมากเกินไปจนเกิดอันตราย การได้รับสารพิษนั้นได้รับทางปากมากที่สุด ตัวอย่างสารพิษที่ได้รับเป็นประจำได้แก่ สารแต่งสีต่างๆ , สารแต่งกลิ่น สารแต่งรส , สารกันบูด(ฟอร์มาลีน คลอรีน)ที่ใช้สำหรับแช่ผัก เพื่อทำให้ผักใหม่สดเสมอ ไม่เหี่ยว , สารกันราในอาหาร , ยาฆ่าแมลงที่ปนเปื้อนมากับผักและผลไม้ , ยาฆ่าหญ้าหรือวัชพืชต่างๆ สารที่ใช้กับผลไม้ต่างๆ เช่น องุ่น มักมีคราบขาวๆ บางๆ ที่ผิว ลองสังเกตดู คือสารฆ่าเชื้อรา , ลำไย ใช้สารโพแทสเซี่ยมคลอเรตเพื่อเร่งให้ออกดอก หรือการรมซัลไฟต์ให้เนื้อสีขาวดูน่ารับประทาน , แอปเปิ้ล ใช้สารเคลือบผิวเพื่อกันเชื้อรา , ส้มเขียวหวาน มีการใช้สารคอปเปอร์ออกซีคลอโรด์ ซึ่งเป็นสารกำจัดเชื้อราสารพิษนี้มีผลโดยตรงต่อทางเดินอาหารทำให้เกิดการปวดท้องอย่างรุนแรง และมีผลต่อระบบประสาท , มะม่วง มีการใช้สารพาร์โคบิวตาโซนเพื่อให้ติดผลนอกฤดูสารตัวนี้ทำลายตับ ทั้งหมดก็เป็นสารพิษที่มากับอาหารที่เราบริโภคในชีวิตประจำวัน ส่งผลทำให้เราป่วยเป็นโรคต่างๆ
โรคมะเร็ง เช่น มะเร็งหลอดอาหาร , มะเร็งปอด , มะเร็งลำไส้ใหญ่ , มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ , มะเร็งกระเพาะอาหาร
โรคเกี่ยวกับภูมิต้านทานของร่างกายผิดปกติ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคพุ่มพวง โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ลมพิษ ผื่นคันผิวหนัง คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ จาม ท้องผูก ท้องเสีย
โรคที่เกิดจากความเสื่อม เช่น ความดันโลหิตสูง , โรคเบาหวาน , เส้นเลือดหัวใจตีบตัน , ไขมันสูง , โรคข้อเสื่อม , สมองเสื่อม , โรคอัมพาต
โรคเสื่อมที่มักเกิดกับคนที่ทำงานออฟฟิศหรือคนในเมืองใหญ่เป็นประจำได้แก่
โรคเครียดนอนไม่หลับ บางคนทำงานมาเป็น 10 ปี ไม่ทราบว่าตนเองเจอกับสภาวะเครียดรุมเร้า
โรคความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตสูงเป็นภัยเงียบที่ไม่มีอาการ มักพบกับคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ซึ่งเกิดจากปัจจัยบางอย่าง โรคความดันอาจนำมาซึ่งเส้นเลือดแตก อัมพฤกษ์ อัมพาต ไตวาย หัวใจวาย
โรคอ้วน โรคนี้มักเกิดขึ้นกับคนในวัยทำงาน โดยเฉพาะคนที่ชอบทำงานไปด้วยรับประทานไปด้วย ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ผู้หญิงมักจะอ้วนง่ายกว่าผู้ชาย
โรคกรดไหลย้อน โรคนี้เกิดกับคนที่รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา รีบมากจนเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด เครียดจัดจนอาหารไม่ย่อย และคนที่สูบบุหรี่หรือดื่มเหล้าจัดมักเสี่ยงต่อการเป็นโรคกรดไหลย้อน นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรคนี้มาเป็นระยะเวลานานมักเสี่ยงกับการเป็นโรคมะเร็งหลอดอาหารอีกด้วย
โรคไมเกรน โรคนี้มักมีอาการปวดหัวบริเวณขมับด้านหน้า หรือ หลังต้นคอ แสดงถึงการพักผ่อนที่ไม่ดีพอ แสงแดด ความร้อนหรือการขาดฮอร์โมนบางชนิดก็ทำให้เกิดโรคนี้เช่นกัน
โรคปวดหลังเรื้อรัง โรคนี้เกี่ยวเนื่องจากกระดูกสันหลัง การใช้ชีวิตอยู่กับโต๊ะทำงานนานๆ ใส่รองเท้าส้นสูงบ่อยๆ ก็อาจเป็นสาเหตุที่สำคัญของอาการปวดคอ บ่า ไหล่ หลัง แขน ขา และสะโพก
โรคต้อและ ตาพร่ามัว โรคนี้มักเกิดจากการใช้สายตานานๆ การอักเสบหรือการติดเชื้อของกระจกตาจากการใส่คอนแทคเลนส์ การที่มีความดันในลูกตา หรือผู้ป่วยโรคต่อมไทรอยด์และกรรมพันธ์
โรคกระเพาปัสสาวะอักเสบโรคนี้เกิดจากการที่นั่งทำงานาน ๆ จนบางครั้งลืมเข้าห้องน้ำ หรือบางทีต้องเดินทางไกลจนทำให้ต้องอั้นปัสสาวะนานๆ เป็นประจำ และเป็นสาเหตุของโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ซึ่งมักเกิดจากเชื้อแบคทีเรียเข้าไปทางท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดจากเชื้อแบคทีเรียเข้าไปทางท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดการอักเสบโรคนี้พบกับผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
โรคนิ่วในถุงน้ำดี การกินอาหารที่มีไขมันสูงเป็นประจำ อาจก่อให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดี ซึ่งมักพบมากในผู้หญิงที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป และคนอ้วนมักเป็นโรคนี้มากกว่าคนผอม โดยอาจมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อการเกิดโรคนี้ มาจาก กรรมพันธ์ การอักเสบและการคั่งของถุงน้ำดี การทานยาคุมกำเนิดเป็นเวลานานๆ
ลองมาศึกษาพฤติกรรมการกินและการดำเนินชีวิตของคนเมืองดูว่าเป็นอย่างไร
ตอนเช้า ดื่มกาแฟ ซื้อปาท่องโก๋ เบเกอรี่เค้กตามร้านสะดวกซื้อใกล้ป้ายรถเมล์ ขนมครก กล้วยทอดมันทอดข้างทาง รีบกินก่อนเข้าทำงานเพื่อให้ท้องอิ่ม
ตอนกลางวัน สั่งอาหารมาทานที่โต๊ะทำงาน หรือออกไปทานร้านอาหารใกล้ๆ ออฟฟิต รายการอาหารมักจะซ้ำๆ เช่น ราดหน้า ผัดซีอิ๊ว ผัดไท ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู และอีกสัปดาห์ก็วนมารายการอาหารเดิมๆ หลังจากอิ๋มแล้วก็หาของติดไม้ติดมือมาด้วยเป็นขนมประเภทมีน้ำตาลมาก ครีมเยอะๆ อาจมีผลไม้ร่วมด้วย ตามด้วยน้ำอัดลม น้ำผลไม้ปั่น แถมด้วยกาแฟสดที่ยอดฮิต
ตอนบ่าย ดื่มกาแฟสดสักแก้ว ต่อด้วยขนมขบเคี้ยว และขนมกินเล่นต่างๆ มากินที่ทำงาน ทำงานไปกินไป
ตอนเย็นก่อนกลับบ้าน มีนัดสังสรรค์กินข้าวกับเพื่อนๆ อาหารส่วนมากก็พวก เนื้อย่างเกาหลี อาหารจำพวกลาบ ส้มตำ ไก่ย่าง คอหมูย่าง มีผักสดให้ 1 จาน แต่ไม่น่าจะปลอดสารพิษ บางวันมีต่อด้วย สุรา และ เบียร์รอบค่ำ ก่อนกลับบ้าน กว่าจะกลับถึงบ้านก็รับเอาอากาศควันรถยนต์ที่มีจำนวนมหาศาลในเมืองใหญ่อย่างชุ่มปอด
วันหยุดสุดสัปดาห์ หาอะไรทานนอกบ้าน ถ้าไม่มีนัดออกไปนอกบ้านหรือสถานที่ท่องเที่ยวก็ ทอดไข่ดาว ไข่เจียว หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปใส่เครื่องปรุงเยอะๆ อาจจะใช้วิธีสั่งพิซซ่า ไก่ทอดยี่ห้อดัง แฮมเบอร์เกอร์ เฟรนซ์ฟรายด์ กินคู่กับน้ำอัดลมสีดำบางยี่ห้อ หรือถ้าออกไปกินก๋วยเตี๋ยวก็ต้องใส่เครื่องปรุงมากๆ น้ำตาลเยอะๆ น้ำส้มเยอะๆ
นี่ก็เป็นตัวอย่างของหายนะที่กำลังจะสะสมเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นเมื่อป่วยก็จะมีความรู้สึกของคำว่า กลัวตาย ทำให้หวนไปคิดถึงการใช้ชีวิตในอดีตที่เคยคิดเรื่องงานเป็นหลัก สนใจแต่เรื่องการทำงานให้ลุล่วง แต่ไม่สนใจเรื่องศาสตร์ของโภชนาการ และลืมเรื่องการใช้ชีวิตที่เป็นสุขจากการมีสุขภาพดี