ทางเลือกที่ 1 กับสูตรการทำอาหารโดยใช้พืชผัก
การรับประทานอาหารให้ครบถ้วน ตามที่นักโภชนาการ กำหนดมาตรฐานไว้ เพื่อให้ใช้อาหาร เป็นยา ดังนั้นอาหารจึงเป็นหัวใจสำคัญ ฉะนั้นการเลือกบริโภคจึงต้องย่อยโปรตีนให้เป็นพลังงานให้หมด ย่อยคาร์โบไฮเดรตให้เป็นกลูโคสหมด ย่อยไขมันให้เป็นกลีเชอไรด์เป็นน้ำหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้หมด ทุกกระบวนการในร่างกายมีความสัมพันธ์กัน เมื่อร่างกายขาดสมดุล เช่นปวดหัว ตัวร้อน เป็นไข้ แสดงว่า ร่างกายมีความเสื่อมเกิดขึ้นแล้ว ส่วนใหญ่จะเลือกที่จะหายาแผนปัจจุบัน ที่บรรเทาอาการลดไข้แก้ปวดกินทันที เพื่อทำการยับยั้งเฉพาะจุด เป็นการทำลายระบบต่างๆ ของร่างกาย ทำลายกระบวนการสร้างพลังงานในร่างกาย การรับประทานอาหารให้ได้สูตรตามที่นักโภชนการกำหนดนั้น ผู้บริโภคต้องจัดเตรียมวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหารเอง เพื่อให้ได้โภชนาการครบถ้วนในแต่ละวันตามที่ร่างกายต้องการ เมนูอาหารจะกินซ้ำๆ ก็ไม่ได้ เพราะอาหารที่กินในแต่ละวันจะไม่มีคุณภาพ และต้องมีวินัยในการกิน จึงต้องมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามสูตร ส่วนผสมก็ต้องหาแบบปลอดสารพิษ เช่น ผักสดต้องสะอาดปลอดสารพิษไม่มียาฆ่าแมลงปะปนมาถ้าจะให้ดีควรปลูกเพื่อกินเองตามรั้วบ้าน หรือพื้นที่ว่างๆ หลังบ้าน เพราะผักสดมีพลังงานชีวิต (Vital Energy) ต้องไม่มีผงชูรสในสูตรของอาหาร น้ำตาลก็ต้องไม่มีผงฟอกขาว ถ้ามีเนื้อสัตว์ต้องแบบปลอดสารไม่มีสารเร่งโตไม่มียาปฏิชีวนะรวมทั้งสารฟอร์มารีน และอีกอย่างที่ต้องมีคือเวลาในการเตรียมการปรุงอาหาร และรายการอาหารในแต่ละวันต้องมี คลอโรฟิลล์ สารสีเขียวจากพืชและผักสด ดังนั้นรายการอาหารจึงต้องมีการกินพืชผักสดด้วยเป็นจำนวนมากด้วยทุกครั้ง แต่ถ้ามีเวลาเตรียมเรื่องอาหารก็ไม่มีปัญหาอะไรซื้อตำราอาหารชีวจิต หรือกินอย่างไร จึงไม่ป่วย ? หนังสือหรือตำราอาหารเพื่อสุขภาพหรือตำราการขับล้างสารพิษมีสูตรการทำที่แตกต่างกันก็มีอยู่หลายร้อยสูตร คงต้องตัดสินใจกันเอาเองจะใช้สูตรไหนมาทำ แต่ถ้าหาเวลาไม่ได้ ไม่มีเวลามาเตรียมการไปตลาดหรือเตรียมรายการอาหาร เพราะหลักการธรรมชาติบำบัดต้องทำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายเดือนติดต่อกัน ต้องมีวินัยในการปรับเปลี่ยนตนเอง และใช้ความอดทนสูง การใช้สารอาหารเพียงระยะเวลาสั้นๆ เพียง 2-3 วัน แล้วหยุดไม่อยากทำก็คงจะไม่เกิดผลอะไรในทางธรรมชาติบำบัด เพราะหลักธรรมชาติบำบัดต้องใช้เวลาและความอดทนอย่างต่อเนื่องพอสมควร ถ้าท่านทำได้ก็ไม่มีปัญหาอะไร ไม่ต้องซื้ออาหารเสริม แต่ถ้าทำได้แต่อย่างยากลำบาก และเวลาก็ไม่ค่อยจะมีก็ต้องหาทางเลือกใหม่
ทางเลือกที่ 2 กับการใช้สารสกัดบริสุทธิ์จากธรรมชาติ
คือ ใช้สารสกัดแบบมีชีวิตโดยการสกัดต้องมีความบริสุทธิ์ไม่ต่ำกว่าแหล่งอาหารที่ได้ตามธรรมชาติ และต้องคงสารอาหารเทียบเท่าจากแหล่งธรรมชาติมากที่สุด การใช้สารอาหารบริสุทธิ์ ต้องไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ต่อร่างกาย ดังนั้นทางเลือกใหม่กับการใช้สารสกัดจากธรรมชาติ ของพืชผักแบบมีพลังชีวิต (Vital Enargy) ดูเป็นเรื่องที่น่าสนใจ เนื่องจากการใช้ไม่ยุ่งยากกับชีวิตประจำวันมากนัก แต่ขั้นตอนกระบวนการผลิตพืชผักแบบสำเร็จรูปต้องไม่เสียคุณค่าทางอาหารหรือเสียน้อยที่สุด การผลิตแบบใช้ความเย็นในการถนอมอาหาร (Freeze Dry) กับระบบหยดน้ำไหลผ่านจึงถูกนำมาใช้ รวมถึงต้องมีขบวนการนำเอาเยื่อหุ้มเซลล์ออกเพราะมนุษย์ไม่มีเอมไซม์เซลลูเลส (Cellules) เหมือนในสัตว์บางชนิดมี และที่สำคัญห้ามใช้ความร้อนในขบวนการผลิตเพราะสารอาหารจำนวนมากสลายไปกับความร้อน สรุปก็คือเราต้องการคงคุณค่าของเอมไซต์และสารอาหารบริสุทธิ์จากพืชผักนั้นเอง ต่อไปก็มาถึงขั้นตอนการเลือกพืชผัก ควรจะใช้อะไรดีในการนำมาผลิตอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนและมีคุณภาพถนอมเอาไว้ได้นาน ก็มีการเลือกพืชผักจากทั่วโลกกว่า 6,000 ชนิด สรุปก็ได้ต้นไม้ชนิดหนึ่งในแถบทะเลทรายมีรากลึกมาก ลำต้นไม่สูงนัก ชื่อต้น อัลฟัลฟ่า เป็นพืชที่มีสาร คลอโรฟิลล์ และสารอาหารต่างๆ สูงที่สุดในโลกจนได้ชื่อว่า บิดาแห่งพืชทั้งมวล รองลงมาก็ ผักขม (spanich) กับ สาหร่าย แต่การใช้ในทางธรรมชาติบำบัดต้องเป็นสารบริสุทธิ์มีเนื้อคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ ตั้งแต่ 95 % ขึ้นไป จึงถือว่าเป็น คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ (Pure Chlorophyll) และมีผลใช้บำบัดในทางการแพทย์ ซึ่งคนทั่วไปไม่ทราบเพราะไม่มีใครเคยบอกคุณ... ถ้าเปอร์เซนต์ของ คลอโรฟิลล์ต่ำกว่านี้ ก็จะให้ได้แค่ความสดชื่น โดยจะมี คลอโรฟิลล์ อยู่ในส่วนผสมเพียงเล็กน้อยส่วนมากก็ราวๆ 0.8 2 % ส่วนที่เหลือจะอยู่ในรูปของสารประกอบเพิ่มเติม (โดยสังเกตได้จากการละลายน้ำตั้งทิ้งไว้เป็นระยะเวลานานๆ ) ต่อมาก็เรื่องการใช้จะใช้อย่างไร ? กับสารสกัดคลอโรฟิลล์สด ง่ายมากและไม่ยุ่งยากสำหรับชีวิตประจำวัน คือใช้ผสมน้ำดื่มได้ทันที ไม่ต้องต้มไม่ต้องปั่นไม่ต้องคำนวณส่วนผสมของอาหารโดยใช้สูตรให้เสียเวลา แต่มีข้อเสียคือเสียเงินเพราะมันแพงพอสมควร การเก็บสารบริสุทธิ์ 100 % ก็แช่ตู้เย็นแบบการถนอมอาหารทั่วไป ส่วนการดื่มแบบผสมน้ำจะแช่ตู้เย็น หรือไม่แช่ก็ได้ตามสะดวก แนะนำให้ตั้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง แต่ข้อห้ามคือ ห้ามต้ม ห้ามใช้ความร้อนกับ คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ เพราะสารอาหารที่มีชีวิตจะสูญเสียไปหมด แต่การใช้สารสกัดพืชผักบริสุทธิ์ ก็ยังมีข้อห้ามอยู่ว่า ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ เช่น เหล้า เบียร์ เป็นต้น ถ้าเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานสารทำลายกระดูก มีอะไรบ้างสำหรับสารทำลายไขกระดูกก็ลองอ่านดูในหน้าต่อไป ส่วนท่านที่ต้องการศึกษางานวิจัยทางการแพทย์หรือรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อความมั่นใจกับคลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ 100 % ก็มีหนังสือเรียบเรียงโดย คุณหมอ ดร. สังสิทธิ์ ศรีสุคนธ์ และ พญ. ชุดา ศรีสุคนธ์ ชื่อหนังสือ คลอโรฟีลล์บริสุทธิ์อาหารอายุวัฒนะ ซึ่งอธิบายเรื่อง คลอโรฟิลล์บริสุทธิ์ ไว้อย่างละเอียด แต่สำหรับท่านที่ต้องการศึกษาตำราในต่างประเทศ แนะนำให้ศึกษาจากหนังสือ PURE CHLOROPHYLL 100 % เรียบเรียงโดย Theodore M. Rudolph, Ph.D. Copyright 1957 อาจทำให้แนวความคิดและมุมมองเรื่องคลอโรฟิลล์ที่คุณเคยได้ยินมาเปลี่ยนแปลงไป ลองหามาอ่านดู
สุขภาพที่ดี จึงเป็นสิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ต่อให้มีเงินมีทองมากมายเพียงใด ก็ไม่สามารถซื้อสุขภาพที่ดีหรือสุขภาพที่ปกติ กลับคืนมาได้ การให้ความสำคัญของการดูแลสุขภาพจึงสำคัญยิ่งชีวิต ชีวิตเราเปรียบเสมือนลูกบอล 4 ลูก ได้แก่ ธุรกิจ เงิน ครอบครัว และสุขภาพ 3 ลูกแรกคือ ลูกบอลที่ทำมาจากยาง ตกพื้นแล้วสามารถกระดอนกลับขึ้นมาได้ แต่ลูกสุดท้ายคือ สุขภาพ ซึ่งเป็นลูกบอลแก้ว ตกแล้วแตกเลยไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ต่อให้รวยแค่ไหนถ้าเป็นโรคร้ายก็ต้องจากไปแบบไม่หวนกลับหรืออยู่เพื่อชื่นชมทรัพย์สมบัติหรือได้อยู่กับคนที่เรารักได้ ดังนั้นคนที่มีปัญหาสุขภาพรบกวนตลอดเวลา มักไม่มีกำลังใจที่จะประกอบอาชีพการงาน ความจริงนี้เรามักพบเห็นได้ในสังคมปัจจุบัน |